#ประกันสังคม เป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพ โดยประกันสังคม เป็นหลักประกันให้กับสมาชิกกลุ่มผู้มีรายได้ และผู้ประกันตน ซึ่งต้องทำการจ่ายเงิน เพื่อสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ในการดูแลจะครอบคลุมเรื่องค่าใช้จ่าย กรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร สงเคราะห์ชราภาพ ตลอดจนการว่างงาน ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยตามที่กำหนด
และหลายคน ก็มี #ประกันสุขภาพ ไว้เช่นกัน ซึ่งประกันสุขภาพ คือ หลักประกันที่บริษัทประกัน จะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้เอาประกัน ทั้งกรณีเจ็บป่วย บาดเจ็บ โรคร้ายแรง และช่วยในการดูแลค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากประกันสังคม เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงโดยเฉพาะ
แต่ก็มีหลายคนที่ถามกันมาเยอะว่า … ถ้ามีประกันสังคมแล้ว ประกันสุขภาพ ยังจำเป็นไหม ?
“ ประกันสุขภาพ” และ “ประกันสังคม” มีในเรื่องของความคุ้มครองที่แตกต่างกัน เนื่องจากประกันสุขภาพ จะดูแลค่ารักษาพยาบาลเฉพาะทาง ช่วยลดความเสี่ยงทางด้านการรักษามากขึ้น
ง่ายๆ ก็คือ ประกันสุขภาพมีการครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลได้มากกว่าประกันสังคม ซึ่งก็ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ช่วยตอบได้ว่า แท้จริงแล้ว ควรทำประกันสุขภาพควบคู่ไว้หรือไม่
ประกันสุขภาพ สามารถเลือกเบี้ยประกันได้
ประกันสังคม เราไม่สามารถเลือกเบี้ยชำระได้ เนื่องด้วยตามที่กฎหมายกำหนด การจะจ่ายมากน้อย หลักๆ ขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนที่ได้รับ แต่สำหรับประกันสุขภาพ สามารถเลือกเบี้ยประกัน และความคุ้มครองเองได้ ซึ่งสามารถเลือกให้เข้ากับความพึงพอใจของคุณเอง
ประกันสุขภาพ สามารถเพิ่มเติมเรื่องความคุ้มครองได้ตามที่ต้องการ
คุณสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมได้ หรือถ้ากำลังมองหาประกันที่ครอบคลุมในเรื่องของ โรคร้ายแรง ที่เมื่อต้องเข้ารับการรักษา คุณสามารถเลือกซื้อประกันที่ดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ซึ่งต่างจากประกันสังคม ที่จะไม่ได้คุ้มครองในเรื่องนี้
ประกันสุขภาพมีโรงพยาบาลให้เลือกมากกว่าประกันสังคม
เมื่อมีประกันสุขภาพ เราสามารถเลือกรับการรักษาที่โรงพยาบาลใดก็ได้ ตามรายชื่อโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือของบริษัทประกัน ซึ่งครอบคลุมอยู่ด้วยกันทั่วประเทศ สามารถใช้สิทธิได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองจ่าย แต่ถ้าใช้สิทธิประกันสังคม คุณต้องไปตามโรงพยาบาลที่เลือกลงไว้ในระบบ เว้นแต่ในกรณีฉุกเฉิน ที่เกิดการถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอื่นๆ แต่อาจจะต้องมีการสำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อน
ประกันสุขภาพ ช่วยยกระดับการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น
ทั้งในเรื่องของการพบแพทย์เฉพาะทางได้ การเลือกรับการรักษาที่โรงพยาบาลชั้นนำ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าที่ไหน จะได้ไม่เสียเวลาคอยรอคิวนาน เลือกหักพักในการรักษาได้ และสามารถจ้างพยาบาลพิเศษได้ แต่ถ้าเป็นประกันสังคม การเข้ารับการรักษาแต่ละครั้ง ใช้เวลาในการรอคิวนาน ห้องพักรวมตามสวัสดิการที่ใช้ และหากต้องการห้องพิเศษ ต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มเอง
ประกันสุขภาพจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลมากกว่า
ประกันสังคมจะดูแลในเรื่องของการเจ็บป่วยพื้นฐานเท่านั้น หากเกินจากวงเงินที่กำหนด จะต้องออกค่าส่วนต่างเอง แต่ประกันสุขภาพ ดูแลทั้งค่ารักษาพยาบาล อุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่าเอ็กเรย์ ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ อีกด้วย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเลยทีเดียว
และทางเราได้ทำเปรียบเทียบในเรื่องของความคุ้มครองค่าใข้จ่ายระหว่างประกันสังคม และประกันสุขภาพไว้ด้านล่าง
ซึ่งจะตอบได้ว่า ประกันสังคมเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพในระดับนึง แต่ไม่ได้เพียงพอต่ออัตราค่าใช้จ่ายที่ต้องเจอในอนาคต ดังนั้น จะเห็นว่า การมีประกันสุขภาพเพิ่มเติมไว้ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด แถมได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม ตอบโจทย์ในด้านการแบ่งเบาการรักษาได้มากขึ้นอีกด้วย