วางแผนการศึกษาบุตร ควรเริ่มต้นอย่างไร ?

บทความนี้เป็นบทความสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการวางแผนอนาคตการศึกษาของบุตร ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการเตรียมตัวที่ดีพอจะช่วยให้ทุกท่านมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนทำให้ง่ายต่อการประเมินค่าใช้จ่ายที่ต้องรองรับในอนาคต ท่านใดที่กำลังอยากสร้างครอบครัวมีบุตรในอนาคตและอยากเตรียมความพร้อมสำหรับวันนั้น ซึ่งวันนี้ผมจะมาแบ่งปันแนวทางในการวางแผนการศึกษาบุตรว่าควรเริ่มต้นอย่างไรให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านกันครับ

แนวทางในการวางแผนการศึกษาบุตรว่าควรเริ่มต้นอย่างไร

1.  วางแนวทางการศึกษา

เริ่มต้นด้วยการวางแนวทางการศึกษา ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างต้องการสถานศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับลูกเสมอ โดยอาจเริ่มต้นจากการมองที่รูปแบบของโรงเรียนซึ่งมีหลากหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาล เอกชนหรือนานาชาติ ตามวัตถุประสงค์ในการศึกษาที่ต้องการ เช่น มีความต้องการส่งเสริมให้บุตรมีความสามารถด้านภาษา ส่งเสริมต้องการให้บุตรมีความสามารถด้านกีฬา เป็นต้น
หากท่านใดมีแผนการศึกษาให้บุตรเรียนต่อถึงระดับปริญญาตรี-ปริญญาโทหรือสูงกว่า ก็ต้องทำการตั้งเป้าหมายในระยะยาวขึ้นมาอีก เลือกมหาวิทยาลัยเป้าหมายไว้ทั้งรัฐบาลและเอกชนรวมถึงโปรแกรมหรือหลักสูตรที่ต้องการให้บุตรศึกษา ซึ่งทั้งหมดเป็นนี้เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นขั้นตอนแรกของการวางแผนการศึกษาของบุตร

2.  คำนวณงบประมาณ

หลังจากนั้นก็ทำการคำนวณงบประมาณจากค่าใช้จ่ายโดยรวมที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแน่นอนออกมาก่อน เช่น ค่าเทอม ค่าอุปกรณ์ในการศึกษา ค่าเดินทาง เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางว่าเราควรจะมีงบประมาณเบื้องต้นเท่าไร แต่โดยปกติแล้วผลของเงินเฟ้อมักจะทำให้ค่าใช้จ่ายในอนาคตสูงขึ้นเสมอ โดยพื้นฐานเพิ่มขึ้นที่ 3%-6% ต่อปี ซึ่งอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องจ่ายเงินมากขึ้นถึง 2 เท่า เราจึงจำเป็นต้องคำนวณเงินสำรองไว้รองรับในส่วนนี้ด้วยครับ

3.  ออมเงินระยะยาว

เมื่อวางแผนการศึกษาและคำนวณงบประมาณเบื้องต้นได้แล้วก็ยังประมาทไม่ได้ครับว่าเงินที่เตรียมพร้อมไว้ให้บุตรนั้นจะเพียงพอจนถึงปลายทางหรือไม่ เพราะหากมีเหตุจำเป็นต้องนำเงินส่วนดังกล่าวมาใช้ ก็จะส่งผลกระทบต่อแผนการศึกษาที่วางไว้อย่างแน่นอน ดังนั้นนอกจากเงินก้อนที่มีแล้ว ควรมีบัญชีในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนของบุตรแยกไว้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นควรมีวินัยในการออม ไม่นำเงินส่วนนี้ไปใช้ในส่วนอื่น เพื่อการศึกษาในอนาคตของลูก

4.  สร้างความมั่นคงให้อนาคต

เพื่อเป็นการประกันอนาคตการศึกษาของบุตรให้มั่นคงเพราะทุกท่านไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตได้ ตัวช่วยที่น่าสนใจคือการทำประกันการศึกษา ซึ่งควรเริ่มวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆโดยประกันการศึกษาทั้งการออมและการลงทุนระยะยาว เมื่อท่านมีระยะเวลาลงทุนที่นาน ท่านยังสามารถใช้เงินต้นในการเตรียมกองทุนเพื่อการศึกษาบุตรได้ ซึ่งหากมีระยะเวลาในการลงทุนที่นาน ก็จะใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแต่ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า

นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันความเสี่ยงในอนาคตได้ โดยการวางแผนทำกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีทุนเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงเมื่อถึงวันที่เราไม่ได้อยู่ดูแลบุตรอีกต่อไป
.
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนการศึกษาสำหรับบุตร สามารถนำไปปรับใช้ตามวัตถุประสงค์การศึกษากับงบประมาณที่มีของท่านได้ เพราะนี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้บุตรของเราสามารถมีอาชีพที่ดีและมีความสุขในอนาคต เราจึงจำเป็นต้องสร้างความมั่นคงที่มากพอที่จะส่งคนที่เรารักให้ถึงฝั่งฝันได้