ประกันโรคร้ายแรง
Critical-illness-Insurance

 ประกันโรคร้ายแรงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินเก็บเพียงพอกับค่ารักษาตัวจากการเจ็บป่วยโดยทั่วไป (ซึ่งค่าใช้จ่ายมักจะไม่สูงมาก) แต่อาจไม่เพียงพอกับค่ารักษาโรคร้ายแรงซึ่งอาจต้องใช้เงินหลักล้าน รวมถึงพนักงานบริษัทและข้าราชการที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว แต่วงเงินอาจไม่สูงพอและจำกัดขอบเขตการรักษาอยู่ในบางสถานพยาบาลเท่านั้น

 ความโดดเด่นของประกันโรคร้ายแรงของเอไอเอ คือ
มีแบบประกันที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบที่เน้นคุ้มครองโรคพบบ่อยไม่กี่โรค ไปจนถึงแบบที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงทั้งระยะต้นไปจนถึงระยะรุนแรง
เอไอเอมอบส่วนลดเบี้ยประกันโรคร้ายแรงสูงสุดถึง 25% สำหรับแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้
มีบริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคล (Personal Medical Case Management: PMCM)* โดย Medix ที่ครอบคลุมการให้คำปรึกษา 3 กลุ่มโรค (มะเร็งและเคสต้องสงสัยมะเร็ง, หัวใจและหลอดเลือด, โรคกระดูกและข้อที่ไม่ต้องการการรักษาโดยเร่งด่วน) โดยการดูแลของทีมแพทย์ผู้เชียวชาญและพยาบาลผู้ประสานงานทางการแพทย์ตลอด 24 ชัวโมง

 หลายคนคงรู้จัก #โรคมะเร็ง แต่เชื่อว่า หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า มีประกันป้องกันโรคมะเร็ง ซึ่งประกันประเภทนี้ ก็มีรูปแบบและความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป ตามแผนของแต่ละบริษัทประกัน ดังนั้น หากสนใจจะทำ #ประกันป้องกันโรคมะเร็ง ก็จำเป็นต้องทราบรายละเอียดคร่าวๆ ของประกันก่อนค่ะ

 ประกันป้องกันโรคมะเร็ง เป็นประกันชีวิตโรคร้ายแรงที่คุ้มครองเฉพาะโรคมะเร็ง ความคุ้มครอง โดยทั่วไปจะมี 2 แบบ คือ...

⇨ 1. แบบเมื่อตรวจพบโรคมะเร็ง สามารถเคลมรับเงินก้อน แล้วผู้เอาประกัน ก็สามารถนำเงินไปบริหารจัดการในการรักษาได้เอง

⇨  2. แบบที่เมื่อตรวจเจอโรคมะเร็ง สามารถเคลมรับค่ารักษาพยาบาล ที่บริษัทประกันจะดูแลแบบครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลให้ผู้เอาประกัน

และที่ทางเรา จะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ ความคุ้มครองรูปแบบเมื่อตรวจพบโรคมะเร็ง สามารถเคลมรับเงินก้อน ที่นอกจากเบี้ยจะถูกแล้ว ยังสามารถเคลมเงินประกันได้ง่าย แต่ก็มักจะมีเงื่อนไขมาในกำหนด และเงื่อนไขเหล่านี้ คือ หนึ่งในปัญหาหลักของการเคลมประกัน เพราะมีหลายคนที่ไม่สามารถเคลมได้ เนื่องจาก ไม่ได้ศึกษาเงื่อนไขตรงนี้ให้ถี่ถ้วนพอ วันนี้เลยจะมาดูกันว่า เลือกประกันมะเร็งแบบจ่ายระยะไหนดีที่เหมาะกับเราที่สุดค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปมี 2 กรณี คือ

 1. ประกันมะเร็งจ่ายระยะลุกลาม
ในกรณีนี้ จะเบิกเคลมได้เฉพาะ เมื่อตรวจเจอมะเร็งที่อยู่ในระยะลุกลามเท่านั้น หากตรวจเจอในระยะอื่นๆ จะไม่คุ้มครอง แล้วทำไมหลายคนจึงเลือกทำประกันมะเร็งจ่ายระยะลุกลาม แทนที่จะเลือกแบบจ่ายทุกระยะ เหตุผลก็คือคนส่วนมาก คิดว่าระยะลุกลามเคลมได้คุ้มกว่าแบบทุกระยะ เนื่องจากอาการร้ายแรงกว่า รวมถึงคนส่วนมาก ไม่เข้าใจถึงแผนประกัน คิดว่ามะเร็งส่วนมาก จะตรวจเจอในระยะลุกลามแล้วเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถตรวจเจอได้ทุกระยะค่ะ

 2. ประกันมะเร็งจ่ายทุกระยะ
ในกรณีนี้จะเบิกเคลมได้ เมื่อมีการตรวจเจอมะเร็ง ไม่ว่าจะในระยะใดก็ตาม การทำประกันมะเร็งแบบจ่ายทุกระยะ จึงมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่า เนื่องจากโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นระยะไหน ก็จำเป็นต้องรีบรักษาอย่างเร็วที่สุด ถึงแม้ว่า จะตรวจเจอในระยะไหนของมะเร็งก็ตาม ประกันก็พร้อมจ่ายเงินก้อนให้ ซึ่งประกันแบบนี้ จะเหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมสูงสุดนั่นเองค่ะ

 โดยสรุปคือ การเลือกแผนประกันป้องกันโรคมะเร็งของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับความต้องการในการครอบคลุมและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันของแต่ละคนนั่นเอง แต่สุขภาพของคนเราเป็นสิ่งไม่แน่นอน และเราไม่อาจทราบได้ว่าจะเกิดโรคอะไร และอยู่ในระยะไหน การมีกรมธรรม์สักเล่มที่ครอบคลุม การเป็นโรคทุกระยะ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตของเราได้มากทีเดียวนะคะ

 แม้จะพยายามใช้ชีวิต รักษาสุขภาพ ออกกำลังกาย ให้ดีแค่ไหน...#ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายแรง โดยเฉพาะ #กลุ่มโรคมะเร็งและเนื้องอก ที่มีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 ของคนไทย และที่น่ากังวลไม่แพ้กันนั่นก็คือ #ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาลอยู่ในระดับที่สูงมาก

แล้ววันนี้ล่ะ? #คุณคิดว่าตัวเองพร้อมแค่ไหน หากถึงวันที่ตรวจพบว่าตนเองเป็นโรคร้ายแรง
เพื่อ #ลดความเสี่ยง และเพื่อ #สร้างความอุ่นใจ ให้ตัวคุณเองและครอบครัวที่คุณรัก ด้วยการทำ #ประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีในเรื่องขอการ

• ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
• ช่วยบรรเทาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น จากการเสียชีวิต
• มีเงินก้อนหรือมรดกที่ไว้ให้คนข้างหลัง

 และประกันโรคร้ายแรงค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก แต่ได้วงเงินความคุ้มครองในระดับที่สูง และสามารถวางแผนความคุ้งครองให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นไดั

 มั่นใจแล้วหรือยัง ว่าเราวางแผนชีวิตครอบคลุมไว้ทุกด้าน ?
ถึงแม้ว่า หลายๆ คนอาจจะมั่นใจแล้วว่า ตัวเองมีการวางแผนชีวิตมาอย่างดี ครอบคลุมทุกด้านแล้ว ทั้งเรื่องของสุขภาพ การเงิน แล้วโรคร้ายแรงหละ คุณได้วางแพลนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้รึยัง อยู่ๆ เกิด เหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น คุณพร้อมรับมือไหม

 เรามาวางแผนชีวิตให้ครบ ปิดทุกจุดให้รอบด้าน ด้วย เอไอเอ สู้ทุกระยะโรคร้าย
ที่ประกอบไปด้วย 4 รูปแบบประกัน
ระยะเริ่มต้น : CI SuperCare, CI Plus Gold รับเงินก้อนสูงสุด 25% เพื่อนำไปรักษาได้อย่างทันท่วงที
ระยะรุนแรง : CI SuperCare, ECIR รับเงินก้อนสูงสุด 100%
ระยะชดเชย : CI Plus Gold ชดเชยรายได้ต่อเนื่อง 5 ปี รับ 20% ของจำนวนเงินเอาประกัน เมื่อเป็นโรคร้ายระยะรุนแรง
ระยะรักษา : Health Cancer ได้เงินชดเชย เมื่อเข้ารักษาที่รพ. ด้วยโรคมะเร็ง
และ 5 โรคร้ายแรง เริ่มต้นวันละ 1,000 บาท

Wellness Package

 คุ้มกว่าเดิม เมื่อซื้อ 4 Wellness Package จาก AIA ให้คุณและคนในครอบครัวได้เบาใจ ไร้กังวล เพราะถ้าคนใดคนนึงล้มไป นั่นเท่ากับ ล้มกันทั้งบ้าน ซึ่งบอกเลยว่า เงื่อนไขแพ็คเกจมีให้เลือกถึง 4 แบบ สามารถเลือกให้ตรงตามความต้องการ และไลฟสไตล์ได้เลย จ่ายเบี้ยน้อย แต่ความคุ้มครองครบ คุ้มจริงๆ !!

Package A : เบี้ยเพียงวันละ 25 บาท 20PLNP + CI PLUS + AHC + H&S รวมทุนประกันถึง 700,000 บาท
Package B : เบี้ยเพียงวันละ 40บาท 20PLNP + CI PLUS + AHC + H&S + HBX รวมทุนประกันกว่า 1,000,000 บาท
Package C : เบี้ยประกันวันละ 64 บาท 20PLNP + CI PLUS + Health Happy (แผน 5 ล้าน) รวมทุนประกันถึง 600,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโรคทั่วไป 5 ล้านบาทและกรณีโรคร้ายแรงจ่าย 2 เท่า 10 ล้านบาท
Package D : เบี้ยเพียงวันละ 89 บาท 20PLNP + CI PLUS + AHC + HBX + Health Happy (แผน 5ล้าน) รวมทุนประกันกว่า 3,000,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโรคทั่วไป 5 ล้านบาทและกรณีโรคร้ายแรงจ่าย 2 เท่า 10 ล้านบาท

 สิทธิประโยชน์ครบ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ชีวิตเราไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายระยะใด AIA CI Rider คุ้มครองครอบคลุม รับเงินก้อนทั้งระยะเริ่มต้น และระยะรุนแรง ให้เงินชดเชยไม่ต้องกังวลเรื่องขาดรายได้ ค่าเบี้ยไม่แพงแต่ผลประโยชน์สุดคุ้ม

AIA CI SUPERCARE

ผู้หญิงกับปัญหาสุขภาพ ที่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งการเปลี่ยนแปลง อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายได้
#มะเร็ง เป็นอีกโรคหนึ่งที่มักเกิดกับผู้หญิง
เราจึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการป้องกันโรคเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้อย่างมาก
.
  มะเร็งเต้านม
เป็นโรคที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิงไทย โดยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุ สาเหตุจากพันธุกรรมหรือการกลายพันธุ์ของยีน การใช้ชีวิตในแบบที่ทำลายสุขภาพ เช่น ดื่มสุรา ไม่ออกกำลังกาย เป็นต้น
  มะเร็งปากมดลูก
มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HPV ที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ มีบุตรหลายคน สูบบุหรี่และปัญหาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้หญิงควรเข้าตรวจมะเร็งปากมดลูก ภายใน 3 ปีหลังมีเพศสัมพันธ์หรือฉีดวัคซีนต้านเชื้อ HPV ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
  มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
เป็นโรคที่พบมากในผู้หญิง ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่ กรรมพันธุ์ อายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีประวัติเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง การใช้ชีวิตที่ทำลายสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน ที่สำคัญคือ เป็นผู้ที่ชื่นชอบอาหารไขมันสูง และขาดการรับประทานผัก ผลไม้ ผู้หญิงตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองมะเร็งชนิดนี้
  มะเร็งปอด
เป็นโรคที่มีความรุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด สาเหตุหลักจากการสูบบุหรี่หรือสัมผัสควันบุหรี่ (second-hand smoking) ซึ่งอาการของโรคจะปรากฎเมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะที่ 3-4 แล้ว ถ้าหากคิดว่า ตนเองมีความเสี่ยง ควรเข้ารับการเอ็กซเรย์คัดกรอง เพื่อให้สามารถรักษาได้ทันหากมีความเสี่ยง
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
สาเหตุการเกิดโรคที่ไม่แน่ชัด แต่มะเร็งชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิง หากมีภาวะฮอร์โมนผันผวน เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มีน้ำหนักตัวมากเกินไป อาจมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ หากมีอาการดังกล่าวควรไปพบสูตินรีแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น
โรคร้ายแรง สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา การมีตัวช่วยดีๆ ในการป้องกันความเสี่ยงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ อย่างประกัน AIA CI super care ประกันที่ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงตลอดชีพ แถมเบี้ยประกันคงที่ นับว่าคุ้มค่าและเป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะช่วยซัพพอร์ตในวันที่เกิดโรคร้าย

image
AIA CI SUPERCARE 10/99 l 20/99 (NO PAR) ผู้ขอเอาประกัน สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือนจนถึง 65 ปี ความคุ้มครองยาวนานสูงสุด 99 ปีหรือตลอดชีวิต
image
สิ่งที่คุณจะได้รับจากการทำแผนประกันนี้คือ …
  ครอบคลุมโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง รวม 18 โรค
  โรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค รวมโรคเด็ก 4 โรค
  เบี้ยประกันคงที่ตลอดระยะเวลาชำระเบี้ยประกัน 20 ปี
  คุ้มครองชีวิต และผลประโยชน์กรณีครบกำหนดสัญญา
  มีมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์
image
ผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรง
  ระดับต้นถึงระดับปานกลาง รับเงิน 20% ของจำนวนเงินเอาประกัน ซึ่งจะจำกัดสำหรับโรคร้ายแรงโรคเดียวเท่านั้น และจ่ายผลประโยชน์นี้เพียงครั้งเดียวตลอดอายุกรมธรรม์ และกรมธรรม์ยังคงมีผลบังคับ หากผู้เอาประกันมีการชำระเบี้ยประกันต่อไป
  ระดับรุนแรง หรือ กรณีเสียชีวิต หรือ กรณีครบกำหนดสัญญา รับเงิน 100% ของจำนวนเงินเอาประกัน หักด้วย ผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง (ถ้ามี) ทั้งนี้เมื่อบริษัทจ่ายผลประโยชน์นี้แล้ว กรมธรรม์จะสิ้นผลบังคับทันที
ระยะเวลาในการชำระเบี้ยประกันมีทั้งแบบ 10 และ 20 ปี จำนวนเงินเอาประกันขั้นต่ำ 2 แสนบาทสูงสุด 5 ล้านบาท
จากกรณีศึกษา ของน้าหมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญในเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้น เป็นสิ่งที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ในทางกลับกัน คุณพงษ์เทพสามารถที่จะเตรียมพร้อมรับมือ ลดความเสี่ยงกับสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาในอนาคตได้และความสูญเสียจะไม่มากขนาดนี้ ดังนั้น "ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง" จึงไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวเลย เริ่มทำความรู้จักและเริ่มวางแผนชีวิตของคุณตั้งแต่วันนี้กันครับ
.
พูดถึงประกันสุขภาพหลายคนคงนึกถึงประกันที่มีแผนคุ้มครองในค่ารักษาพยาบาลของโรคทั่วไป ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากค่ารักษาพื้นฐาน เช่น ค่าห้อง ค่ายา หรือค่าผ่าตัด เป็นต้น แต่หลายคนอาจจะมองข้ามประกันสุขภาพที่ครอบคลุมถึง “โรคร้ายแรง” ซึ่งเป็นโรคที่อาจต้องรักษาโดยแพทย์หรือใช้เครื่องมือเฉพาะทางและมีแนวโน้มของเวลาในการรักษาที่ยาวนาน ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง โดยทางสถิติแสดงให้เห็นว่าโรคร้ายแรงที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ โรคมะเร็งต่างๆ, โรคหลอดเลือดในสมองแตกหรืออุดตัน, โรคเกี่ยวกับหัวใจ,โรคไตวายเรื้อรัง และโรคเกี่ยวกับปอด
เห็นได้ชัดครับว่าการเป็นโรคร้ายแรงไม่ใช่เรื่องไกลตัวเรา มีโอกาสเกิดกับเราได้เสมอ ดังนั้นเราจึงควรวางแผนทำประกันสุขภาพให้ครอบคลุมส่วนของโรคร้ายแรงเหล่านี้เอาไว้ด้วย
วิธีการวางแผนเลือกทำประกันโรคร้ายแรงให้เหมาะสม
ในการเลือกทำประกันโรคร้ายแรงให้ได้ประโยชน์สูงสุด เราควรเริ่มจากการประมาณค่าใช้จ่ายนการรักษาพยาบาลของเราเอาไว้ก่อน แล้วจึงเลือกทำประกันโรคร้ายแรงที่มีวงเงินคุ้มครองจำนวนเท่านั้นเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
จากนั้นเราก็ต้องมาเลือกลักษณะของการทำประกันว่าจะทำแบบไหน โดยแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน เหมาะกับความต้องการที่ต่างกันไป โดยลักษณะของการทำประกันสุขภาพร้ายแรงมี 2 ลักษณะ ดังนี้
  แบบคุ้มครองตลอดชีวิต จ่ายเบี้ยคงที่ ครบสัญญามีเงินคืน
เป็นลักษณะคล้ายการซื้อประกันชีวิตซึ่งครอบคลุมประกันโรคร้ายแรงเอาไว้เรียบร้อย มีสัญญาคล้ายกับการทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพ คือมีการจ่ายเบี้ยช่วงเวลาหนึ่ง (10 หรือ 20 ปี) และจะมีสัญญาคุ้มครองไปจนถึงอายุ 85 - 99 ปีไปตามเงื่อนไขประกัน โดยเบี้ยประกัน (เบี้ยคุ้มครองชีวิตและเบี้ยคุ้มครองโรคร้ายแรง)จะคงที่ตลอดระยะเวลาที่จ่าย
นอกจากนี้ค่าเบี้ยคุ้มครองชีวิตเราสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยครับ การทำประกันแบบนี้จะคุ้มครองโรคร้ายแรงทั้งระยะเริ่มต้น หรือ ระยะลุกลาม ซึ่งจะจ่ายค่าชดเชยเป็นเปอร์เซ็นจากจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ทำไว้ เช่น ระยะเริ่มต้นก็อาจจะค่าชดเชยเป็น 20% ระยะลุกลามได้ค่าชดเชย 100% ของเงินประกันนั่นเอง รวมถึงคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจะได้ค่าชดเชย 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ไม่ว่าจากโรคร้ายแรงหรือสาเหตุใดๆก็ตาม เมื่อครบสัญญา ก็จะได้รับเงินทั้งหมดของจำนวนเงินเอาประกันภัยเช่นกันครับ
ข้อดี
1. เบี้ยประกันคงที่ ทำให้วางแผนทำประกันได้ง่ายและชัดเจน
2. จ่ายเบี้ยเพียง 10-20 ปี แล้วไม่ต้องจ่ายอีกเลย คุ้มครองครองตลอดอายุสัญญา
3. คุ้มครองโรคร้ายแรงตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ไม่ต้องรอจนถึงระยะลุกลามจึงคุ้มครอง
4. คุ้มครองชีวิตทุกกรณี ไม่ว่าเสียชีวิตจากโรคร้ายแรงหรือสาเหตุอะไรก็ตาม
5. เบี้ยประกันส่วนของความคุ้มครองชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
6. หากอยู่จนครบสัญญา ก็ได้เงินครบกำหนดสัญญาคืนด้วย
ข้อเสีย
1. ค่าเบี้ยประกันแพง ต้องคำนวณค่าเบี้ยในการทำประกันสุขภาพอื่นที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลให้พอ
2. ต้องมีวินัยในการจ่ายเบี้ยประกันเพราะต้องชำระเบี้ยในระยะยาว หากต้องการยกเลิกในระหว่างอายุสัญญาจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการยกเลิก
3. จำนวนโรคร้ายแรงที่ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าแบบสัญญาเพิ่มเติม
ข้อแนะนำ เหมาะกับคนที่เน้นทำเพื่อคุ้มครองโรคร้ายแรงโดยเฉพาะ ที่ต้องการความคุ้มครองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นไปจนตลอดชีวิต และต้องการความคุ้มครองกรณีที่เสียชีวิตด้วย
  แบบสัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองปีต่อปี ต้องจ่ายเบี้ยตลอดอายุสัญญา เบี้ยแพงขึ้นเรื่อยๆ และเป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง
เป็นสัญญาเพิ่มเติมแยกต่างหาก ที่ต้องเลือกซื้อหลังหรือพร้อมกับประกันชีวิตซึ่งเป็นสัญญาหลัก โดยทั่วไปจะคุ้มครองไปจนถึงอายุ 70 - 85 ปี เฉพาะกรณีตรวจพบในระยะลุกลาม หรือเสียชีวิตจากโรคร้ายแรงเท่านั้น
ค่าเบี้ยประกันไม่คงตัว จะค่อยปรับขึ้นตามอายุ และเป็นเบี้ยแบบจ่ายทิ้ง ปีต่อปี ถ้าหากไม่เป็นโรคร้ายแรงแต่ค่าเบี้ยประกันของสัญญาเพิ่มจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้นะครับ
ข้อดี
1. ทำตั้งแต่อายุยังน้อยมีโอกาสจะได้เบี้ยถูกกว่าแบบจ่ายเบี้ยคงที่ค่อนข้างมาก เนื่องจากสุขภาพยังแข็งแรง ยังไม่มีประวัติการเจ็บป่วยรุนแรง
2. เนื่องจากเบี้ยช่วงต้นไม่แพง จึงสามารถทำควบคู่กับประกันสุขภาพตัวอื่นได้ ทำให้สามารถวางแผนคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ครอบคลุมมากกว่า
3. สามารถเลือกหยุดจ่ายเบี้ยสัญญาเพิ่มเติมได้ทันทีหากไม่ต้องการต่อสัญญา ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยที่ยังมีความคุ้มครองชีวิตจากสัญญาหลัก และประกันสุขภาพจากสัญญาเพิ่มเติมตัวอื่นๆ ตามเดิม (ถ้ามี)
4. คุ้มครองโรคร้ายแรงจำนวนมาก ประมาณ 30-40 กว่าโรค
ข้อเสีย
1. ค่าเบี้ยประกันปรับจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ จึงไม่เหมาะจะทำเพื่อคุ้มครองโรคร้ายแรงในระยะยาว
2. โดยทั่วไป ไม่คุ้มครองการเป็นโรคร้ายแรงตั้งแต่ระยะเริ่มต้นแต่จะคุ้นครองเฉพาะลุกลามเท่านั้น ทำให้ต้องจ่ายค่ารักษาในระยะเริ่มต้นเอง หรือต้องทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองค่ารักษาทั่วไปเพิ่มเติม
3. โดยส่วนมากจะคุ้มครองเฉพาะกรณีเสียชีวิตจากโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ตามสัญญา หรือเสียชีวิตโดยมีความเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ตามสัญญาเท่านั้น
ข้อแนะนำ เหมาะสำหรับคนที่อยากทำประกันสุขภาพให้ครอบคลุมหลายด้าน ทั้งค่ารักษาพยาบาลทั่วไป โรคร้ายแรง หรืออุบัติเหตุ ในงบประมาณก้อนหนึ่งที่มี ไม่ได้เน้นเฉพาะโรคร้ายแรงแต่เพียงอย่างเดียว และมีความคุ้มครองชีวิตอยู่แล้ว เพียงต้องการคุ้มครองโรคร้ายแรงในช่วงเวลาหนึ่ง ต้องการความคุ้มครองในระยะเวลาที่ไม่นานนัก
ทุกคนเข้าใจกันแล้วใช่ไหมครับว่าการทำประกันภัยโรคร้ายแรงแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง เพื่อนๆก็สามารถนำไปเป็นแนวทางในการเลือกประกันให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละท่านได้เลย เพราะเรื่องการเกิดโรคร้ายแรงนั้นสามารถเกิดกับเราได้เสมอ ในเวลาฉุกเฉินที่เราเจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าว ประกันโรคร้ายแรงจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างในการรักษาพยาบาลและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการเงินของเราได้มากทีเดียวครับ
image

ติดต่อสอบถาม

image
โทร : 094-451-7465
image
Line ID : @erconsulting
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้